นวดกดจุดฝ่าเท้าว่าอาจช่วยกระตุ้นต่อมใต้สมองและเพิ่มการหลั่งของฮอร์โมนเอนเคฟาลีนได้ดี
อาการปวดมักมาคู่กันกับการนวด ซึ่งการนวดฝ่าเท้าจะช่วยให้เลือดไหลเวียนมายังกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อบริเวณฝ่าเท้าเพิ่มมากขึ้น จึงอาจช่วยบรรเทาอาการปวดได้ทั้งในผู้ที่ใช้งานเท้าหนักเกินไปและผู้ที่มีอาการปวดจากโรคต่าง ๆ อย่างโรคข้ออักเสบ โรคไฟโบรมัยอัลเจีย รวมทั้งอาการปวดที่เกิดจากการไหลเวียนของเลือด อย่างโรคเบาหวาน และภาวะปวดเรื้อรัง นอกจากนี้ ยังมีทฤษฎีที่พูดถึงการนวดกดจุดฝ่าเท้าว่าอาจช่วยกระตุ้นต่อมใต้สมองและเพิ่มการหลั่งของฮอร์โมนเอนเคฟาลีนและเอ็นโดรฟินออกมา ซึ่งจะช่วยยับยั้งความรู้สึกปวดและการใช้เก้าอี้นวดเท้าช่วยให้รู้สึกมีความสุขมากขึ้น
การนวดฝ่าเท้าอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง อย่างเวียนศีรษะ เจ็บเท้า และอารมณ์อ่อนไหวได้ แต่มักเป็นอาการชั่วคราวที่หายได้เองและไม่เป็นอันตราย อย่างไรก็ตาม ก่อนการเลือกใช้บริการนวดฝ่าเท้าที่ใด เบื้องต้นควรเลือกสถานประกอบการที่มีใบอนุญาตประกอบการอย่างถูกกฎหมาย และพนักงานผู้ให้บริการนวดทุกคนมีใบผ่านการอบรมทางด้านการนวด เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ ข้อพึงระวังในการนวด 1.การเปิดประตูลม ไม่ควรกดนานเกิน 45 วินาที หรือนับ1-45 ช้าๆ 2.ห้ามดัดดึง ห้ามดัดคอ บิดคอ ห้ามดัดดึงผู้ที่เป็นอัมพฤกษ์อัมพาต ห้ามกระตุกเข่า ห้ามกระตุกข้อต่อทุกข้อ ห้ามดัดดึงผู้ที่ข้อเท้าแพลง 3.การระบม เจ็บปวด กล้ามเนื้อมีรอยช้ำเขียว มีไข้ มักจะมีสาเหตุจากผู้ถูกนวดไม่เคยถูกนวดมาก่อน ผู้นวดใช้แรงมากเกินไป นวดถี่วันเกินไป ผู้นวดชำนาญ หรือไม่มีความรู้จริง 4.ในการนวดตัว ห้ามเหยียบหลัง หรือท้อง สำหรับตำแหน่งอื่นหากไม่ใช่วิธีเหยียบจะดีที่สุด
ในกรณีที่ผู้ถูกนวดมีอาการเป็นไข้หลังจากการนวด ควรดื่มน้ำมากๆ และหมั่นเช็ดตัวบ่อยๆ โดยปกติผู้ถูกนวดจะรู้สึกสะบายขึ้นภายใน 1-2 วัน หลังการนวด แต่ถ้ามีไข้เกิน 3 วัน ควรแนะนำให้ไปพบแพทยื เพราะอาจมีอาการแทรกอื่นได้