การกดจุดคือการใช้นิ้วมือกดลงไปบนจุดต่างๆของเส้นลมปราณตามร่างกายซึ่งการกดจุดเป็นศาสตร์ที่พัฒนามาจากการฝังเข็มของแพทย์แผนจีนโบราณการกดจุดสามารถใช้บำบัดรักษาโรคและส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรงซึ่งปัจจุบันการกดจุดเป็นที่รู้จักกันดีอย่างแพร่หลายทั่วโลกและเป็นวิธีง่ายๆที่คนทั่วไปสามารถทำได้เองจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ใส่ใจในสุขภาพและ เป็นอาชีพที่สามารถทำเงินได้ดีเพราะปัจจุบันคนไทยหันมาสนใจสุขภาพกันมากขึ้น อาชีพการนวดจึงได้รับความนิยมและได้รับการยอมรับไปอย่างแพร่หลายในส่วนประโhยชน์ของการกดจุดนั้น การกดจุดฝ่าเท้าลักษณะการนวดนั้นจะเป็นลักษณะการนั่งบนเก้าอี้นวดฝ่าเท้า ประโยชน์ช่วยการไหลเวียนของโลหิตและกระตุ้นการทำงานของต่อมน้ำเหลืองช่วยทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายทั้งระบบประสาทและระบบกล้ามเนื้ออีกทั้งยังช่วยรักษาสมดุลในร่างกายสร้างความแข็งแรงให้กับสุขภาพร่างกาย ทฤษฎีการบำบัดรักษาโรคแผนโบราณและศาสตร์ของการนวดไทยหรือการนวดกดจุดสะท้อนฝ่าเท้านั้น ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณนักการตอนนี้กำลังกลายเป็นวิถีแห่งการบำบัดที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมที่สุดทั้งในสังคมไทยและไม่เว้นแม้กระทั่งบรรดาชาวต่างชาติที่มีโอกาสได้มาท่องเที่ยวในเมืองไทยและได้มีโอกาสได้ทดลองใช้บริการการนวดไทยเพื่อสุขภาพหรือการนวดเพื่อบำบัด ในการนวดเพื่อบำบัดเพื่อความผ่อนคลายนั้นจะมีการนำความร้อนมาผสมผสานกับสรรพคุณของสมุนไพรไทยหลายชนิดเพื่อที่จะช่วยบำบัด การนวดแผนไทยไม่เพียงแต่เพื่อรักษาความเจ็บปวดเท่านั้นแต่มีคุณค่าต่อสุขภาพเนื่องจากอาศัยการสัมผัสอย่างมีศิลปะ
ข้อควรระวังในการกดจุดที่เราควรทราบในเบื้องต้น
1. สตรีมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการกดจุดบริเวณหน้าท้องหลังตั้งแต่ระดับเอวจนถึงก้นกบและเชิงกราน
2. ไม่ควรกดจุดขณะที่หิวหรืออิ่มมากจนเกินไป
3. ผู้ป่วยที่มีร่างกายอ่อนเพลียควรระมัดระวังในการกดจุดเนื่องจากอาจจะทำให้เป็นลมได้
4. หลีกเลี่ยงการกดจุดบริเวณที่เป็นมะเร็งเพื่อไม่ให้มะเร็งกระจายตัว
สนใจเรียนหลักสูตรการนวดแผนไทย
5. หลีกเลี่ยงการกดจุดในบริเวณที่ติดเชื้อหรือมีบาดแผลที่อาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้
6. ห้ามกดจุดบริเวณศีรษะให้กับทารกที่กระหม่อมยังไม่ปิด